การสูดดมไฮโดรเจนจากกระบอกผลิตน้ำไฮโดรเจนจะได้ผลไหม?

คำถามที่ผมเจอบ่อยมากครับ

ก่อนที่อ่านต่อผมมีคำถามง่ายๆ สำหรับทุกท่านครับ ถ้าสูดดมไฮโดรเจนจากกระบอกผลิตน้ำไฮโดรเจนได้ผล ทำไมเขาต้องผลิตเครื่องใหญ่สำหรับกันสูดดมไฮโดรเจนอย่างเดียว แล้วทำไมถึงจะมีบริษัทเอามาทำการตลาด?

ประมาณ 12-13 ปีที่แล้วเมื่อกระบอกผลิตน้ำไฮโดรเจนเริ่มบูมในประเทศจีน ทุกบริษัทเจอปัญหาการแข่งขันที่รุนแรงเพราะสินค้าของแต่ละบริษัทใกล้เคียงกันทั้งหมด ในจังหวะนั้นมีบริษัทหนึ่งคิดค้นไอเดียเพิ่มแอคเซสโซรีสำหรับสูดดมไฮโดรเจนจากกระบอกน้ำไฮโดรเจน บริษัทนี้ประสบความสำเร็จในการแยกตัวเองออกจากตลาดที่แข่งขันรุนแรง แต่เพียงช่วงเวลาสั้นๆ ไอเดียนี้ก็ถูกบริษัทอื่นๆ ก๊อบปี้ไป นี่คือที่ไปที่มาทำไมมีชุดแอคเซสโซรีสำหรับสูดดมไฮโดรเจนครับ

ตอนนี้เราจะเข้าสู่ทฤษฎีซึ่งจะเกี่ยวข้องกับคณิตศาสตร์นิดนึงนะครับ จากการทดลองและศึกษาในเวลาหลายปี ผู้เชี่ยวชาญในประเทศญี่ปุ่นและอีกหลายๆ ประเทศต่างแนะนำที่ขั้นต่ำ 2% สำหรับการบำบัดที่เห็นผล คำนวณยังไงครับ

อากาศที่เราหายใจเข้าโดยเฉลี่ยมีประมาณ 500 mL ใน 2 วินาที ยกตัวอย่างเครื่องสูดลมไฮโดรเจนที่มีอัตราการไหล 300 mL ต่อนาที ก็เท่ากับ 5 mL ต่อวินาที (300 mL หารด้วย 60 วินาที = 5 mL ต่อวินาที) กรุณาดูรูปภาพเผื่อได้เข้าใจมากขึ้น หายใจเข้า 2 วินาที x 5 mL (H2) = 10 mL (H2) ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 10 mL ของ 500 mL เราก็ได้ 2% ครับ ถ้าเครื่องไฮโดรเจนที่มีอัตราการไหล 600 mL ต่อนาทีเราจะได้ 4% ครับ

กลับมาดูกระบอกผลิตน้ำไฮโดรเจน เราใช้ตัว i Deby การผลิตไฮโดรเจน 900 ppb ใน 3นาทีและอัตราการไหลอยู่ที่ 5 mL ต่อนาทีหลังจากการวัด ก็เท่ากับ 0.0833 mL ต่อวินาที (5 mL หารด้วย 60 วินาที = 0.0833 mL ต่อวินาที)  หายใจเข้า 2 วินาที x 0.0833 mL (H2) = 0.167 mL (H2) ถ้าคิดเป็นเปอร์เซ็นต์ 0.167 mL ของ 500 mL เราก็ได้ 0.0334% ครับ

เข้าใจง่ายๆ อัตราการไหล 5 mL (0.0334%) กับ 300 ML (2%) แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง ไฮโดรเจนยังไม่ทันเข้าโพรงจมูกก็หายไปแล้วครับ สรุปสั้นๆ การสูดดมไฮโดรเจนจะกระบอกผลิตน้ำไฮโดรเจนจะลำบากมากที่มีปฏิกิริยาการบำบัดเกิดขึ้น